บิ๊กป้อม เร่งขับเคลื่อนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ล่าสุดเพิ่มอีก 15 พื้นที่ใน 14 จังหวัดเป็นเมืองอัจฉริยะไทยแลนด์ คาดดึงเงินลงทุนเอกชนพัฒนาเมืองไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท พร้อมผลักดันอีก 4 จังหวัด เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน มุ่งเน้นสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน
วันนี้ (9 พ.ย.65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ครั้งที่ 1/2565 โดยได้รับทราบผลการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการประกาศมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย ประจำปี 2565 ทั้งสิ้น 15 พื้นที่ ใน 14 จังหวัด กิจกรรมการพัฒนากำลังคนด้านเมืองอัจฉริยะ การสร้างกลไกการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการพิจารณาเพิ่มเมืองเพื่อเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน อีก 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ระยอง และฉะเชิงเทรา จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 3 เมืองได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งทั้ง 7 เมืองนับเป็นเป้าหมายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของรัฐบาล
เพิ่มพื้นที่เมืองอัจฉริยะ 15 พื้นที่ใน 14 จังหวัด ประกอบด้วย
1. นครระยอง เมืองอัจฉริยะและน่าอยู่ จังหวัดระยอง
2. คันทรงโมเดล เมืองแห่งความสุขที่พึงประสงค์และสังคมแห่งการแบ่งปัน จังหวัดชลบุรี
3. เมืองอัจฉริยะจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
4. โครงการพิษณุโลกนครอัจฉริยะอย่างยั่งยืน จังหวัดพิษณุโลก
5. นครเชียงรายสู่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดเชียงราย
6. เมืองน่านสู่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดน่าน
7. โคราชเมืองอัจฉริยะ จังหวัดนครราชสีมา
8. Smart City อุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
9. กระบี่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดกระบี่
10. จังหวัดพังงาสู่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดพังงา
11. Satun Smart City จังหวัดสตูล
12. พัฒนาเทศบาลนครเกาะสมุย สู่เมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
13. หาดใหญ่เมืองอัจฉริยะสีเขียว จังหวัดสงขลา
14. ปัตตานีเมืองอัจฉริยะ จังหวัดปัตตานี
15. เมืองสิ่งแวดล้อมสร้างสรรค์นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองเป็นเมืองอัจฉริยะรวม 30 พื้นที่ใน 23 จังหวัด ก่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนกว่า 20 ล้านคน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับกิจการพัฒนาพื้นที่เมืองอัจฉริยะ และกิจการพัฒนาระบบเมืองอัจฉริยะจากบีโอไอ โดย 15 เมืองอัจฉริยะประเทศไทยที่ได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมวันนี้จะช่วยให้เกิดโอกาสการลงทุนเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่จากภาคเอกชนมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท
พล.อ.ประวิตร ได้ขอให้ทุกภาคบูรณาการการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะของประเทศ เนื่องจากเป็นวาระแห่งชาติ และจะนำไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของภาคประชาชน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 โดยเฉพาะหมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับกิจกรรมสานต่อความร่วมมือระดับภูมิภาคผ่านเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน ยังได้จัดกิจกรรมการพัฒนากำลังคนด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (Smart City Ambassadors) รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนากำลังคนดิจิทัลรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กิจกรรมส่งเสริมและสร้างความตระหนัก อาทิ การจัดประกวด The Smart City Solution Awards 2022 เพื่อมอบรางวัลแก่ผู้ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อการบริการภาคประชาชน และการจัดนิทรรศการ Smart City Expo 2022 ที่จะมีขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565