ทัพนักกอล์ฟ 144 คน จาก 27 ประเทศ ตบเท้าเข้าร่วมดวลวงสวิงศึกเอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีส์ 2021 รายการ “บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ณ สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ (แคนยอนคอร์ส) ระยะ 7,257 หลา พาร์ 72 จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายนนี้ โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 180,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 6 ล้านบาท
วันที่ 24 พ.ย. 64 เอเชียน ทัวร์ พร้อมจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพส่งท้ายฤดูกาล 2020-2021 หลังจากหยุดแข่งขันยาวถึง 19 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยสองรายการใหญ่สองสัปดาห์ติดต่อกันที่จังหวัดภูเก็ต และได้รับการขนานนามว่าเป็น “เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีส์” โดยเริ่มจากรายการ บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามบลู แคนยอน คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายนนี้ ตามด้วยรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม โดยทั้งสองรายการมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิงรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท
ล่าสุดเหล่านักกอล์ฟทยอยเดินทางถึงโรงแรมที่พัก พร้อมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่เดินทางมาถึง และลงฝึกซ้อมวันแรกเมื่อวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมจัดให้มีกิจกรรมถ่ายภาพประชาสัมพันธ์การแข่งขัน โดยมีสองผู้เล่นแถวหน้าอย่าง มิเกล ทาบูเอน่า เจ้าของสองแชมป์เอเชียน ทัวร์ จากฟิลิปปินส์ และ สดมภ์ แก้วกาญนา โปรมากฝีมือของไทย ร่วมกิจกรรม
“โปรเพชร” สดมภ์ แก้วกาญจนา นักกอล์ฟวัย 23 ปี จากนราธิวาส เจ้าของ 4 แชมป์ในไทยปีนี้ ซึ่งเป็นชัยชนะที่ภูเก็ตสองรายการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เผยหลังลงฝึกซ้อมวันแรกว่า “รู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่เอเชียน ทัวร์ กลับมาแข่งอีกครั้ง ดีใจที่ได้เจอเพื่อนนักกอล์ฟต่างชาติที่ไม่ได้เจอกันมานาน ครั้งนี้มาจัดที่เมืองไทยก็มีความมั่นใจ ที่ผ่านมามีลงแข่งในไทย เหมือนเราได้ซ้อมในบรรยากาศแข่งขันด้วย แม้ในไทยจะมีแมตช์แข่งเยอะ แต่ได้มีการวางแผนว่าจะเล่นรายการใด หยุดรายการใด สำหรับสนามบลูแคนยอนเป็นที่สนามค่อนข้างเสิร์ฟยาก ถ้าเสิร์ฟอยู่ก็จะทำแต้มได้ ช่วงนี้ผลงานดีขึ้นมากเพราะช่วงโควิดได้ซ้อมมากขึ้น โดยเฉพาะลูกสั้น และได้แคดดี้ช่วยเรื่องระยะ ช่วยเรื่องลมได้เยอะ รวมถึงช่วยกันอ่านไลบนกรีน ทำให้เล่นได้มั่นใจขึ้น สำหรับสัปดาห์นี้ยังไม่คาดหวังอะไรมาก ขอผ่านตัดตัวก่อน อยากเล่นให้สนุกวันต่อวัน”
ทางด้าน มิเกล ทาบูเอนา โปรวัย 27 ปี ซึ่งคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ ครั้งที่ 2 ให้กับตัวเองได้จากรายการ ควีนส์คัพ ที่ประเทศไทยเมื่อปี 2018 พูดถึงความพร้อมหลังจากเพิ่งเดินทางมาจากสหรัฐฯ ว่า “ผมไม่ได้ลงแข่งขันในสภาพอากาศแบบนี้มาถึง 7-8 เดือน ตอนนี้ยังมีอาการเจ็ตแลคอยู่บ้าง รู้สึกดีที่ทัวร์กลับมาจัดแข่งได้อีกครั้ง โดยเฉพาะที่ประเทศไทย และหวังว่าผมจะทำได้ดี แต่ยังไม่อยากคาดหวังอะไรมากจนกว่าจะถึงวันสุดท้าย”
นอกจากนี้ยังมีอดีตโปรมือหนึ่งของเอเชียน ทัวร์ ลงชิงชัยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ “โปรแจ๊ส” อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (ปี 2019), กาวิน กรีน จากมาเลเซีย (ปี 2017), สกอตต์ เฮนด์ จากออสเตรเลีย (ปี 2016) และ จีฟ มิลก้า ซิงห์ จากอินเดีย (ปี 2006, 2008) รวมถึงผู้เล่นฝีมือดีของเอเชียน ทัวร์ อย่าง จอห์น แคทลิน ดีกรี 3 แชมป์ยูโรเปียน ทัวร์ จากสหรัฐฯ คิม จูฮยุง โปรดาวรุ่งจากเกาหลีใต้, พรหม มีสวัสดิ์ และ พชร คงวัดใหม่ สองโปรหนุ่มแถวหน้าชาวไทย.