นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เริ่มทยอยโอนเงินเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ในพื้นที่มาตรการของรัฐให้ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดแล้ว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สงขลา โดยยอดการโอน 2 วันแรกอยู่ที่ 1,829,387 ราย เป็นเงิน 4,573.47 ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 จะเริ่มโอนให้อีก 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคมในพื้นที่ 13 จังหวัด แบ่งเป็นนายจ้าง จำนวน 174,896 คน และลูกจ้างจำนวน 3.1 ล้านคน ทั้งนี้ ลูกจ้างจะได้รับเงินเยียวยาจำนวน 2,500 บาท และนายจ้างจะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาทต่อจำนวนลูกจ้างหนึ่งคน แต่ไม่เกิน 200 คน และในส่วนของผู้ประกันตน มาตรา 39 และ มาตรา 40 ใน 13 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยอดผู้ประกันตน มาตรา 39 จำนวน 1.3 ล้านคน และผู้ประกันตน มาตรา 40 จำนวน 4 ล้านคน แต่ที่ยังไม่ชำระเงินงวดแรกประมาณ 7 แสนคน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ขยายเวลาให้ชำระภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ถึงจะถือว่าการลงทะเบียนสมบูรณ์ได้รับสิทธิ์ โดยคาดว่าจะสามารถโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท สำหรับ มาตรา 39 และมาตรา 40 ได้ภายในวันที่ 24 สิงหาคม นี้
ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาของพื้นที่จังหวัดที่ประกาศล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นอีก 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ และตาก ซึ่งจะได้รับการเยียวยาเช่นเดียวกับ 13 จังหวัดที่ประกาศมาก่อนหน้านี้
นอกเหนือจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานค่าน้ำ-ค่าไฟที่ใช้แล้วทั่วประเทศ เบื้องต้นระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ กลุ่ม 13 จังหวัดเดิม จะได้รับเยียวยา 2 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคม – สิงหาคม 2564 ส่วนกลุ่ม 16 จังหวัดที่เพิ่มเติมจะได้รับการเยียวยา 1 เดือน ได้แก่ เดือนสิงหาคม 2564
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับรู้ปัญหาของทุกกลุ่ม ไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนอดทนและร่วมฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ซึ่งจะมีการประชุมหารือหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเพื่อพิจารณากฎเกณฑ์และแนวทางช่วยเหลืออื่นๆ ต่อไป อนึ่ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเร่งด่วนผู้ประกอบการนายจ้าง ลูกจ้าง ตลอดจนแรงงานกลุ่มอาชีพอิสระ และพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ 9 ประเภท จากการประกาศล็อกดาวน์ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด โดยรูปแบบของการเยียวยาจะได้รับเช่นเดียวกับ 13 จังหวัดที่ประกาศมาก่อนหน้านี้ ซึ่ง ครม. ได้เห็นชอบขยายวงเงินเยียวยาจาก 30,000 ล้านบาท เป็นประมาณ 60,000 ล้านบาทแล้ว