ศบค.ได้ปรับมาตรการผ่อนคลายเป็น 4 ระดับ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีเพียงจังหวัดเดียว คือ สมุทรสาคร ที่ให้ร้านอาหารเปิดบริการได้ไม่เกิน 21.00 น. นั่งรับประทานอาหารในร้านได้แต่งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ศูนย์การค้าเปิดได้ถึง 21.00 น. งดจัดกิจกรรมและจำกัดจำนวนคน สถานบันเทิงและฟิตเนส ยังคงปิดให้บริการ สถานศึกษาทุกระดับ จัดเรียนแบบออนไลน์เท่านั้น
ส่วนพื้นที่ควบคุม 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, ราชบุรี และตาก ร้านอาหารเปิดบริการได้ถึง 23.00 น. นั่งรับประทานอาหาร และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ สถานบันเทิงเปิดบริการได้ไม่เกิน 23.00 น. ส่วนสถานออกกำลังกาย ศูนย์การค้า สถานศึกษา เปิดตามปกติ แต่จำกัดจำนวนคน
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 14 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, นครนายก, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, เพชรบุรี, ระนอง, ชุมพร, สงขลา, ยะลา และนราธิวาส ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. และสถานบันเทิงเปิดได้ถึง 24.00 น. ส่วนศูนย์การค้า สถานออกกำลังกาย สถานศึกษา เปิดตามปกติแต่จำกัดจำนวนคน
ส่วนจังหวัดที่เหลือเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง 54 จังหวัด ทุกสถานที่เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ศูนย์การค้า และสถานออกกำลังกาย จำกัดจำนวนคน อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด จะประกาศใช้เมื่อใด พร้อมกันนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก จนถึงวันที่ 31 มีนาคม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และจะเสนอคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มแรก ซึ่งเป็นกลุ่มไฮเอนด์ 59 คน ที่เดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินในประเทศอินโดนีเซีย มาลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่คัดกรองตรวจเชื้อ ก็ได้เข้าพัก และกักตัวที่โรงแรมศรีพันวา ลักษณะของ Villa Quarantine โดยห้ามออกนอกพื้นที่จนกว่าจะครบ 14 วัน ขณะที่ผู้ประกอบการมองว่า เป็นเรื่องดีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา เพราะจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ต้องมีมาตรการดูแลป้องกันโรคที่เข้มงวด