วันนี้ (12 ก.พ. 64) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผกก.สภ.คอหงส์ และ พ.ต.ท.พัทชนันท์ ภักดีดำรงทรัพย์ รอง ผกก.สส.สภ.คอหงส์ พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ออกอาละวาดก่อเหตุใช้ก้อนหินปาใส่กระจกรถยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ ได้รับความเสียหายนับสิบคัน
โดยผู้ต้องหารายนี้คือ นายภาณุพงศ์ โสภากุล อายุ 25 ปี ชาว ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งจับกุมได้เมื่อประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา ที่บ้านเช่าที่พักอยู่ภายใน ซ.10 ถ.ทุ่งรี เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ ก่อนคุมตัวมาสอบสวน และยอมรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง เท่าที่จำได้ 10 ครั้ง 10 คัน ก่อนที่ในช่วงบ่าย 2 ทางตำรวจจะคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บน ถ.คลองเรียน 2 ถ.ธรรมนูญวิถี ถ.ทุ่งรี ถ.ศรีภูวนารถ และซอยด้านข้างห้างโลตัส หน้า มอ.
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า ตอนนี้อาศัยอยู่กับพ่อเพียง 2 คน ที่บ้านเช่า โดยมีภรรยา แต่เลิกรากันไปแล้ว ส่วนลูกวัย 2 ขวบ ทางภรรยารับไปดูแล และตอนนี้ก็ไม่มีงานทำมานานนับปีแล้ว จากที่ล่าสุดเคยทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
ส่วนสาเหตุที่ต้องปาหินใส่รถยนต์คันอื่น เนื่องตนความเครียดจากทั้งปัญหาครอบครัว รวมทั้งการเล่นพนันออนไลน์ ที่ติดงอมแงมมานากว่า 1 ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะแพ้ และที่จำได้มากสุดที่เคยแพ้แล้วเสียเงินมากกว่า 1 หมื่นบาท ต่อครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่แพ้พนัน และเกิดความเครียด ก็จะขับรถจักรยานยนต์ออกไปหารถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่นิ่งๆ ไม่มีคนนั่งในรถ แล้วปาหินใส่กระจกรถทันที โดยไม่ได้หวังเอาทรัพย์สินที่อยู่ในรถแต่อย่างใด และจะเลือกเอาเฉพาะรถที่ไม่มีคนนั่งอยู่ในรถเท่านั้น เพราะไม่ต้องการทำร้ายใคร และครั้งสุดท้ายที่ก่อเหตุคือช่วง 23.00 น. คืนที่ผ่านมา บริเวณ ถ.ธรรมนูญวิถี หน้าสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง
นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้สำนึกผิด และยกมือไหว้ขอโทษเจ้าของรถยนต์ทั้ง 10 คัน ที่ถูกปาหินใส่กระจก ซึ่งที่ตนเองทำไปเพราะความเครียดจริงๆ และอยากขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า ในคดีนี้ผู้ต้องหาได้ตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.-11 ก.พ. 64 รวม 10 ครั้ง ซึ่งบางวันจะปารถยนต์ของชาวบ้านมากกว่า 1 คัน และส่วนใหญ่จะก่อเหตุในช่วงเที่ยงวัน หรือไม่ก็เที่ยงคืน ซึ่งทางชุดสืบสวนได้เบาะแส ทั้งภาพจากกล้องวงปิด การไล่เช็กเส้นทางหลบหนีของคนร้าย และการสอบสวนผู้เสียหาย
กระทั่งได้เบาะแสสำคัญเป็นรถจักยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ สีดำ ทะเบียน 1กก 8682 นราธิวาส ซึ่งเป็นของป้าที่จะไปขอยืมเวลาขับก่อเหตุ จึงสาวไปถึงตัวผู้ต้องหาได้อย่างไม่ยากเย็น และจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นการปิดฉากมือปาหินที่ทำให้ประชาชนได้ความเดือดร้อน และหวาดระแวงในการใช้รถใช้ถนนตลอดช่วงสัปดาห์นี้
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ ดำเนินคดี ส่วนผู้เสียหายมีเข้ามาแจ้งความไปก่อนหน้านี้แล้ว 1 คน นอกจากนั้นจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายพบว่า เคยก่อเหตุปาหินใส่หน้าโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่งมาแล้ว บริเวณ ถ.เพชรเกษม โดยถูกตัดสินจำคุก 30 วัน และเพิ่งพ้นโทษออกได้ประมาณ 2 เดือน