ปม รด.นราธิวาส กล้ามเนื้อสลายและไตวายเฉียบพลัน ‘พรรคเป็นธรรม’ ชี้ รด. เป็นผลพวงจากความไม่ประสงค์ของเด็กและผู้ปกครองที่จะต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร ย้ำถึงเวลายกเลิกการเกณฑ์ทหาร ด้าน รอง ผบ.นรด. เผยปรับย้ายครูฝึก รด.นราธิวาส แล้ว
5 ธ.ค. 2565 จากกรณีนักศึกษาวิชาทหารในจังหวัดนราธิวาส มีอาการกล้ามเนื้อสลายและไตวายเฉียบพลัน ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ทีมสื่อพรรค พรรคเป็นธรรม รายงานต่อสื่อมวลชนว่า กัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม เห็นว่า การที่นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 และ 2 ในจังหวัดนราธิวาส จำนวน 23 ราย มีอาการกล้ามเนื้ออักเสบอย่างรุนแรงและ 8 ราย มีอาการไตวายเฉียบพลันและต้องได้รับการฟอกไต โดยแพทย์ระบุเป็นภาวะกล้ามเนื้อสลาย คงต้องให้กำลังใจน้องๆ และพ่อแม่อย่างมาก รวมถึงร่วมกันตั้งคำถามต่อความเป็นธรรมกับการตั้งกรรมการสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
กัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม
กัณวีร์ เห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องมาพิจารณายกเลิกกฎหมายการเกณฑ์ทหาร ซึ่งอาจยังมีประเทศกว่า 20 ประเทศที่ยังคงกฎหมายนี้ในรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับไทยต้องมาทบทวนบริบทด้านความมั่นคง ที่มีการสู้รบน้อยมาก และการเรียนรักษาดินแดน หรือ รด. จริงๆ แล้วเป็นผลพวงจากความไม่ประสงค์ของเด็กและผู้ปกครองที่จะต้องผ่านการเกณฑ์ทหารเมื่ออายุครบ 21 ปี บริบูรณ์
“หากประเทศไทยต้องการสร้างและผลิตกำลังสำรองตามคอนเซ็ปท์ “citizen soldier” แล้วนั้น ควรให้เป็นไปแบบ “ด้วยความสมัครใจ” อย่างแท้จริง แล้วคุณจะได้คนมีคุณภาพเพื่อพัฒนากองทัพต่อไป ผมเชื่อว่ายังมีคนที่อยากเรียนเรื่องการทหารอยู่ และสามารถนำมาพัฒนาเป็นกำลังพลที่มีความสามารถต่อไปได้ ไม่ใช่เด็กชายไทยทุกคน” กัณวีร์ ย้ำ
นอกจากนี้ รด. ที่มีอยู่เริ่มต้นตั้งแต่เด็กชายอายุ 15 ปี และไม่สมัครใจโดยส่วนใหญ่ มีการตั้งข้อสังเกตุเรื่องการฝึกกองกำลังทหารเด็ก เพราะกลายเป็นการบังคับคนโดยกฎหมายที่จะมีผลต่อเด็กในอนาคตหากไม่เรียน รด. และสร้างความกลัวให้ทั้งผู้ปกครองและเด็ก
“ผมทราบว่า การเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด” แต่หากต้องการกำลังพลที่มีคุณภาพที่จะเข้ามาพัฒนาสถาบัน ต้องเริ่มจากความปรารถนาส่วนบุคคลและด้วยความสมัครใจ กลุ่มนี้จะเป็นเป้าหมายหลักที่สถาบันทหารควรนำมาพัฒนาให้กองทัพมีขีดความสามารถมากขึ้น” กัณวีร์ กล่าว พร้อมเสนอว่า การเรียนทหารของรักษาดินแดน ควรใช้คอนเซ็ปท์ “citizen soldier” ในการฝึกฝนบุคคลให้มีศักยภาพทางทหารเมื่อประเทศของตนต้องการ และคนที่ถูกฝึกนั้นสามารถใช้ศักยภาพที่ถูกพัฒนามาเพื่อเติมเต็มหน้าที่ของพลเมืองอย่างมีคุณภาพในเวลาปกติ และการเข้าไปฝึกนั้น ควรต้องไม่ใช่เด็กและต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ
ตัวอย่างเช่นในประเทศสหรัฐฯ มีการเรียน ROTC ในมหาวิทยาลัย (เหมือน รด. แต่แยกเหล่าที่สนใจและเข้มข้นกว่า) และให้นักศึกษาผู้สนใจวิชาการทางทหารเข้ารับการอบรมและฝึกฝนด้วยความสมัครใจ และระหว่างรับการอบรมและฝึกนั้น นักศึกษาสามารถได้รับทุนจากกองทัพเพื่อช่วยให้สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้เสียอีกด้วย
กัณวีร์ เห็นว่า ทำไมไทยไม่พิจารณาและทำเฉกเช่นนี้ หากทำแล้ว 1) จะไม่ถูกครหาเรื่องการใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารมาบังคับให้คนเรียน รด. 2) ลบข้อครหาและความเสี่ยงถูกกล่าวหาเรื่องทหารเด็ก 3) ผู้ที่จะเข้าเรียนวิชาทหารในมหาวิทยาลัย จะไม่ใช่เด็กแล้ว 4) คนมารับการฝึกอบรมจะมาด้วยความสมัครใจ 5) ลดภาระการใช้ภาษีหลายร้อยล้านบาทจากการนำมาใช้เรื่องการอบรม รด. ปี 1 – 3 ทั่วประเทศ 6) นำภาษีที่จะต้องใช้จ่ายในข้อ 5 มาทำเป็นทุนให้นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่สมัครใจเรียน อย่าง ROTC เพื่อช่วยให้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา และวิชาทหารที่สมัครใจเรียนไปพร้อมกัน และ 7) กองทัพจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพในหลายๆ สาขาวิชาในระดับอุดมศึกษามาพัฒนากองทัพอย่างมากมาย
ย้าย ครูฝึก รด.นราธิวาส
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ทวีพูล ริมสาคาร รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รอง ผบ.นรด.)ได้รับมอบหมายจาก พล.ท.วสุ เจียมสุข ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เดินทางมาติดตามเยี่ยมอาการและมอบกระเช้า เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 ที่มีอาการเนื้อลายสลายและไตวายเฉียบพลัน ดังกล่าว
“ในส่วนของจุดบกพร่องผิดพลาดต่างๆ ทางกองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจไปดูข้อบกพร่องต่างๆ เราจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงตกนั้น เท่าที่ทราบคือมีครูฝึกท่านหนึ่งท่านไม่ได้มีเจตนาคิดอาฆาตมาดร้ายกับนักศึกษา เพียงแต่ว่าท่านตั้งใจในการฝึก ท่านก็อาจจะฝึกเกินกำลังของเด็กไปบ้าง ทางหน่วยฝึกวิชาทหารพอทราบประเด็นนี้ก็มีการปรับย้ายครูคนนี้ไม่ให้รับผิดชอบตรงนี้แล้ว” รอง ผบ.นรด. กล่าว