- Line
นราธิวาส-ประชุม ศบค.จังหวัด ปรับมาตรการหรือกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้สอดคล้องกับ ศบค.ส่วนการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมในห้วง ก.ย.นี้ และเร่งฉีดกลุ่ม 608 เพื่อลดความรุนแรงในการเสียชีวิต!
วันนี้ (8 ก.ย.64) นายไพโรจน์ จริตงาม รองผวจ.นราธิวาส เป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 39/2564 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ในที่ประชุม นายแพทย์สถาพร สินเจริญกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส รายงานภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 333 ราย ผู้ป่วยสะสมจำนวน 15,866 ราย
ขณะที่มีการรายงานข้อจำกัดเรื่อง ปริมาณวัคซีน คาดการณ์ว่าจะได้รับ SINOVAC ในเดือน ก.ย.นี้ โดยจะใกล้เคียงกับเดือน ส.ค. ประมาณ 65,000 โดส และยังเน้นกลุ่ม 608 ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อลดความรุนแรงในการเสียชีวิต โดยกลุ่มนี้ทางสาธารณสุขจะให้บริการเชิงรุก เนื่องจากมีบัญชีผู้สุงอายุ และ 7 กลุ่มโรค รวมถึงหญิงตั้งครรภ์อยู่แล้ว
ในส่วนวัคซีนที่เหลือจากกลุ่ม 608 จะให้บริการที่โรงพยาบาล เนื่องจากจะมีกลุ่มที่มารับบริการเพิ่มมากขึ้น ตามมาตรการข้อบังคับ เช่น เดินทางโดยเครื่องบินต้องฉีดวัคซีน ร.ร.ที่เปิดเรียน มัสยิดที่จะเปิดให้มีการละหมาด โดยให้กลุ่มนี้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลตามปริมาณวัคซีนที่มี หากหมดให้ลงทะเบียนจองใว้ และสูตรที่ใช้คือ เข็มที่ 1 SINOVAC และเข็มที่ 2 คือ ASTRAZENECA
ซึ่งทุกจังหวัดจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อย่างน้อยร้อยละ 70 ในทุกจังหวัด ภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยประชาชนตื่นตัวเดินทางมาฉีดวัคซีนมากขึ้น ภาพรวมของจังหวัดนราธิวาส ขณะนี้มีจำนวนวัคซีนลดลง ซึ่งจะมีการขอจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม
ส่วนมาตรการเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในการปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดและบาราเซาะห์ และมาตรการจัดงานประเพณีวันสารทเดือน 10 และงานประเพณีทอดกฐิน ประเพณีสำคัญของชาวพุทธ จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางการจัดกิจกรรมอีกครั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.64) ณ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส
ทั้งนี้มีการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.นราธิวาส เกี่ยวกับมาตรการของจังหวัดนราธิวาส เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของ ศบค.อาทิ การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง โดยขอความร่วมมือประชาชนเดินทางเฉพาะความจำเป็นเท่านั้น และห้ามกิจกรรมการรวมคนมากกว่า 25 คน , การขนส่งสาธารณะ จำกัดผู้โดยสารโดยไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท , ร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มเปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. และงดดื่มสุราในร้าน
ในส่วนของร้านทำผม สถานเสริมความงามให้เปิดดำเนินการได้ รวมทั้งห้ามออกนอกเขตสถานตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.วันรุ่งขึ้น