12 มีนาคม 2564 ร.ต.อ.อนิวัฒน์ ขอบเพ็ชร รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ตรงข้ามปั้มน้ำมันพีที บ้านลูโบ๊ะซูหลง ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี ทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปที่เกิดเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางชั่วคราว เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากป้องกันเหตุเกิดขึ้นซ้ำซ้อน หลังตรวจสอบพบว่า มีรถ จยย.พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า สีเขียว เลขทะเบียนป้ายแดง พิธาน-ภูผา 3862 นราธิวาส บรรทุกของมาเต็มคัน สภาพล้มตะแคงขวา และมีร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่ข้างรถ ทราบชื่อนายมูฮำมัดคอยาพี วาเด็ง อายุ 28 ปี สังกัดกองร้อย อส.อำเภอสายบุรี ที่ 5 อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.4 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี สภาพศพใส่เสื้อยืดคอปกสีดำ ที่หน้าอกขวาระบุชุดคุ้มครองตำบล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าศีรษะ 1 นัด อกซ้าย 1 นัด และแขนซ้าย 1 นัด
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายอยู่ระหว่างพัก ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างไปรับภรรยาที่เสร็จจากขายของที่ตลาดนัด โดยภรรยาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกคันนำหน้าไปก่อนแล้ว โดยในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจยย.ตามหลังมา โดยที่ผู้ตายไม่ทันได้ระวังตัว ทางคนร้ายได้ขับขี่เข้ามาประชิด ก่อนที่คนร้ายที่ซ้อนท้ายชักอาวุธปืนออกมายิงทันทีหลายนัด กระสุนถูกผู้ตายจนเป็นเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำเสียชีวิตทันที หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีเข้าไปในเส้นทางหมู่บ้านเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังปิดเส้นทางเข้าออกในรัศมี 500 เมตร พร้อมทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าคนร้ายจะหลบซ่อนตัว
พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัว สำหรับการลอบก่อเหตุครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่พยายามแสดงศักยภาพเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากในวันพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบบีอาร์เอ็น เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาก่อนหน้านี้ พอสบโอกาสจึงก่อเหตุขึ้น ทั้งๆที่ตนและฝ่ายความมั่นคงได้กำชับอย่างหนักแน่นว่าช่วงเดือนนี้ ให้เฝ้าระวังพื้นที่และอย่าประมาท เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีแกนนำระดับปฏิบัติการเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.สายบุรี และ อ.กะพ้อ หวังเตรียมการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป้นเป้าหมายหลักที่จะถูกลอบทำร้าย ทั้งการเดินทางและฐานปฏิบัติการจุดเสี่ยง
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางฝ่ายความมั่นคงมีการสนธิกำลังปิดล้อมเป้าหมายทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการกดดันและปิดช่องว่างเพื่อไม่ให้กลุ่มก่อร้ายมีโอกาสออกมาก่อตุสร้างความวุ่นวายต่อบ้านเมืองและประชาชนในพื้นที่
