ปัตตานีนำร่องเปิดละหมาดวันศุกร์มัสยิด 300 ปี อ.โคกโพธิ์ พร้อมสั่งปิดสถานที่เสี่ยง อ.เมือง – ไม้แก่น ด้านนราธิวาสยังไม่พ้นวิกฤติ ติดเชื้อใหม่พุ่งเกิน 400 รายต่อเนื่อง
วันศุกร์ที่ 10 ก.ย.64 นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพบปะประชาชน ที่มัสยิดนัจมุดดีน หรือมัสยิด 300 ปี บ้านควนลังงา ม. 4 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในโอกาสที่เปิดให้มีการละหมาดวันศุกร์ เป็นการนำร่องภายใต้มาตรการที่กำหนดอย่างเข้มข้นตามประกาศจังหวัดปัตตานี ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ในหลายหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีประชากรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมมากว่าร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ ผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด
นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า หมู่บ้านและชุมชน ที่ประชากรรับวัคซีนร้อยละ 70 แล้ว ยังต้องมีการแสดงใบรับการฉีดวัคซีนหรือการติด QR Code หลังบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อลดขั้นตอนการแสดงเอกสารยืนยันการรับการฉีดวัคซีนหรือมีผลการตรวจเชื้อ ด้วย Antigen Test Kit (ATK) มาแล้วไม่เกิน 7 วัน ให้คณะกรรมการมัสยิด และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบก่อนเข้ามัสยิดควบคู่กับการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัดด้วย
“หลังจากนี้ มัสยิดอื่นๆ ก็จะได้นำมาตรการตามที่กำหนด เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ขอให้ประชาชนได้ร่วมสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ให้กับชาวปัตตานี เพื่อให้การขับเคลื่อนด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจกลับคืนได้โดยเร็ว”
@@เปิด รพ.สนามเพิ่มอีก 1 แห่ง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังคงพบผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มสูงขึ้นและพบผู้ป่วยรายใหม่ทุกวัน
ล่าสุดทางนายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งจังหวัดปัตตานีที่ (พิเศษ) 74/2564 เรื่อง จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม(แก้ไขเพิ่มเติม) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.ให้เปลี่ยนชื่อ “โรงพยาบาลสนามมรกตธัญญารักษ์ปัตตานี” เป็น “โรงพยาบาลสนามธัญญารักษ์โรงยิมองค์การบริหารส่วนตำบลบานา” ตั้งอยู่ที่ โรงยิมองค์การบริหารส่วนตำบลบานา อ.เมือง จ.ปัตตานี
2.ให้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนามธัญญารักษ์สะพานปูน ตั้งอยู่ที่ ที่ทำการท่าจอดเรือ องค์การบริหารส่วนตำบลบานา อ.เมือง จ.ปัตตานี
3.ให้โรงพยาบาลทุกแห่งและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องมอบหมายให้ข้าราชการและบุคลากรในสังกัด เข้ามาปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสนาม โดยสลับหมุนเวียนกัน
@@สั่งปิดบ้านติดเชื้อ 17 หลัง อ.เมือง – ปิด 6 บาลาเซาะห์ อ.ไม้แก่น
นอกจากนี้ยังมีประกาศคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่(พิเศษ) 75/2564 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มัสยิดและบาลาเซาะห์ ดังต่อไปนี้
1.ปิดบ้านติดเชื้อและผู้เสี่ยงสูง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเวลา 14 วัน ประกอบด้วย ต.อาเนาะรู จำนวน 2 หลังคาเรือน , ต.จะบังติกอ จำนวน 2 หลังคาเรือน และ ต.สะบารัง จำนวน 13 หลังคาเรือน
2. ปิดมัสยิดอัลเราะฮมานี(ตะโละแกตอง), บาลาเซาะห์ ร.ร.ตะโละไกรทอง, บาลาเซาะห์บาบอมะ, บาลาเซาะห์บลีกู, บาลาเซาะห์กูแบซือโย๊ะ และบาลาเซาะห์กูแบลียา ในพื้นที่ ม.3 บ้านตะโละไกรทอง ต.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.64 – 15 ก.ย.64
@@นราธิวาสยังไม่พ้นวิกฤติ ติดเชื้อใหม่พุ่ง 400 กว่าราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันศุกร์ที่ 10 ก.ย.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 178 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 17,333 ราย รักษาหายแล้ว 12,579 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 268 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 115 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 90 ราย, โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 3 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 614 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 507 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 38 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 183 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 116 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 2 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 75 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 190 ราย และ Home Isolation จำนวน 18 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 2,468 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 699 ราย, อ.หนองจิก 272 ราย, อ.โคกโพธิ์ 60 ราย, อ.ยะหริ่ง 270 ราย, อ.สายบุรี 263 ราย, อ.ไม้แก่น 31 ราย, อ.แม่ลาน 35 ราย, อ.ยะรัง 178 ราย, อ.ปะนาเระ 95 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 138 ราย, อ.มายอ 240 ราย และ อ.กะพ้อ 100 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 255 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 14,258 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,015 ราย รักษาหายแล้ว 11,109 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 134 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 182 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 5,266 ราย, อ.กรงปินัง 1,161 ราย, อ.เบตง 756 ราย, อ.รามัน 1,483 ราย, อ.บันนังสตา 2,724 ราย, อ.กาบัง 431 ราย, อ.ธารโต 1,052 ราย และ อ.ยะหา 1,385 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,015 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 187 ราย, โรงพยาบาลเบตง 91 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 465 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 111 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 758 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 89 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 297 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 222 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 91 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 29 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 199 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 17 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 93 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 4 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 361 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 404 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 75 ราย, อ.ตากใบ 56 ราย, อ.ยี่งอ 40 ราย, จะแนะ 7 ราย, อ.แว้ง 21 ราย, อ.สุคิริน 9 ราย, อ.รือเสาะ 31 ราย, อ.บาเจาะ 33 ราย, อ.ระแงะ 34 ราย, อ.ศรีสาคร 29 ราย, อ.สุไหงปาดี 21 ราย และ สุไหงโก-ลก 48 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 16,725 ราย รักษาหายสะสม 13,625 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 193 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 3,477 ราย, อ.ระแงะ 1,884 ราย, อ.รือเสาะ 817 ราย, อ.บาเจาะ 1,156 ราย, อ.จะแนะ 811 ราย, อ.ยี่งอ 1,132 ราย, อ.ตากใบ 1,736 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,235 ราย, อ.สุไหงปาดี 1,220 ราย, อ.ศรีสาคร 760 ราย, อ.แว้ง 1,210 ราย, อ.สุคิริน 454 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 833 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 285 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 273 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 23,023 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 23,000 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,385 ราย รักษาหายแล้ว 19,506 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 132 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,105 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 6,096 ราย, อ.เมืองสงขลา 3,356 ราย, อ.สิงหนคร 2,841 ราย, อ.จะนะ 2,316 ราย, อ.สะเดา 1,884 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,237 ราย, อ.เทพา 1,205 ราย, อ.รัตภูมิ 621 ราย, สทิงพระ 489 ราย, อ.บางกล่ำ 400 ราย, อ.นาทวี 348 ราย, อ.นาหม่อม 331 ราย, อ.ระโนด 280 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 145 ราย, ควนเนียง 142 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 20 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 186 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
@@ โรงพยาบาลหลักนราฯ เตียงยังติดลบ
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 10 ก.ย.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,053 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 948 เตียง คงเหลือ 105 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,852 เตียง ใช้ไป 2,955 เตียง คงเหลือ 897 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:211
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,560 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 1,168 เตียง คงเหลือ 392 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,982 เตียง ใช้ไป 815 เตียง คงเหลือ 2,167 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม อยู่ที่ 1:7
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 744 เตียง คงเหลือ 47 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 847 เตียง คงเหลือ 241 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:121
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 918 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 926 เตียง ติดลบ 8 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,100 เตียง ใช้ไป 1,477 เตียง คงเหลือ 1,623 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:295