ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล เผยหลังเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่นำร่อง เงินสะพัดแล้วกว่า 30 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล เปิดเผยในรายการห้องข่าวเช้านี้ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล ถึงสถานการณ์หลังเปิดรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล และมาตรการรองรับในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ว่า หลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบัน (3 พ.ย. 64) ในพื้นที่นำร่อง 2 แห่งได้แก่ เกาะหลีเป๊ะ และชุมชนบ้านวังสายทอง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามานั้นส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวจากภาคอื่นๆ
โดยจะมีการเชื่อมโยงเส้นทางจนมาถึงจังหวัดสตูล จากสนามบินตรัง/สนามบินหาดใหญ่ และด้วยรถที่เข้ามาจังหวัดสตูล ซึ่งจากการการประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 4,000 บาท/หัว ส่วนพื้นที่วังสายทอง ประมาณ 2,000 บาท/หัว ทำให้มีเงินกระจายในพื้นที่แล้วประมาณ 30 ล้านบาท โดยกระจายรายได้ไปยังประชาชนทุกระดับในจังหวัดสตูล
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ให้เศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้และสอดคล้องกับนโยบายการเปิดประเทศ จึงมีการประชุมคณะทำงานติดตามและควบคุมการปฏิบัติตามมาตรฐานแนวทางปฏิบัติในการเปิดรับนักท่องเที่ยว SOP โดยมีการเสนอปรับปรุงมาตรฐานแนวทางการปฏิบัติในการเข้ามาของนักท่องเที่ยว เช่น นักท่องเที่ยวต้องรับวัคซีนป้องกัน COVID-19 หากเป็นวัคซีน Johnson & Johnson ต้องรับวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม , วัคซีน Moderna ต้องรับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม และวัคซีน Pfizer ต้องรับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม เพิ่มมาตรการการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ ATK หรือ RT-PCR ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา และสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี จะต้องตรวจ ATK หรือ RT-PCR ด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
