วันพุธ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 18.52 น.
ทหารซีลเข้มชายแดน‘นราธิวาส-ยะลา’สกัดโอไมครอน ย้ำ‘ใกล้รุ่ง’ระวังแก๊งต่างด้าวหลุด
8 ธันวาคม 2564 พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อเป็นประธานประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.อ.กำธร ศรีเกตุ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส , พ.ต.ท.ธีระโชติ ปฐมวณิชกะ ผบ.ร้อย ตชด.447 , เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร , เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร , เจ้าหน้าที่ทหารพราน , ฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดน ในการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน OMICRON ที่พบการแพร่ระบาดในประเทศมาเลเซีย
ในที่ประชุม พล.ต.วรเดช ได้รับฟังการบรรยายสรุปของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยว โดยภาพรวมมีมาตรการที่เคร่งครัด สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 เป็นอย่างดี โดยเน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าตั้งอยู่ในความประมาท เนื่องจากทราบว่าสายพันธุ์โอมิครอน หรือโอไมครอน ติดโดยง่ายและไม่มีการแสดงอาการให้เห็น ทุกคนถือว่าสุ่มเสี่ยงอย่าตั้งอยู่ในความประมาท โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กองกำลังที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่แนวพรมแดน ทั้ง ตชด. ชุดควบคุมป้องกันชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารพราน เราได้ปฏิบัติหน้าที่มากว่า 2 ปีแล้ว ต้องพยายามสร้างการข่าวและดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม ในการชี้เบาะแสเพื่อทำลายเครือข่ายกลุ่มขบวนการคนนำพาโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ลักลอบเข้าตามช่องทางธรรมชาติ เพราะคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงในการนำพาโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาแพร่ระบาด จึงถือว่าการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคได้ถูกจุด
ต่อมา พล.ต.วรเดช เดินทางไปเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านน้ำตก ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางธรรมชาติที่กลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ลักลอบหลบหนีข้ามแดนจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กองกำลัง พร้อมได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปรับแผนในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือใกล้รุ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่อ่อนเพลียอาจจะมีเผลอหลับไปบ้าง ทำให้กลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวอาจฉวยโอกาสนำแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าตามช่องทางธรรมชาติได้เหมือนกับในทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ถือว่าโชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเอาไว้ได้ แต่ถ้าหลุดรอดไปได้มันคือมหาภัยเลวร้ายที่โควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน เข้ามาแพร่ระบาดจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งก่อนเดินทางกลับได้มอบอาหารแห้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับกำลังพล ในครั้งนี้ด้วย
วันเดียวกัน ที่ฐานปฏิบัติการ กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 1 อ.เบตง จ.ยะลา ร.อ.เอกชัย ไชยสาลี ผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 1 ได้จัดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ลาดตระเวนเดินเท้าเลาะชายแดน บ้านจาเราะปูโงะ เทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา บริเวณหลักเขตที่ 52/27 วางกำลังคุมเข้มตลอดเส้นทาง ประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ เพราะอาจจะนำเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เข้ามาในประเทศ หลังจากประเทศมาเลเซีย ประกาศก่อนหน้านี้ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว และหากตรวจพบต้องดำเนินการตามขั้นตอนของการผ่านเข้าเมือง และมีการปรับพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคและตรวจหาเชื้อโรคต่อไป
ร.อ.เอกชัย กล่าวว่า จากสภาพลักษณะเขตแดน อ.เบตง เป็นลักษณะแนวกำแพงคอนกรีต สลับกับรั้วลวดหนามแน่นหนากั้นเขตแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย สลับกับป่าภูเขา ที่ลักษณะภูมิประเทศซับซ้อนยากต่อการเดินทางข้ามตามช่องทางดังกล่าว ประกอบกับแรงงานต่างด้าวที่ต้องการเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายนั้น ฝั่งด่าน อ.เบตง ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการน้อย และไม่มีช่องทางธรรมชาติที่ล่อแหลม ที่ตรวจพบส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เข้าไปหาของป่า แต่กำลังเจ้าหน้าที่ก็ยังคงคุมเข้มทุกตารางนิ้วในการเฝ้าระวัง ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่มีพื้นที่ลักษณะภูมิประเทศที่ไม่สะดวกต่อการเดินทาง ต้องอาศัยความชำนาญของผู้นำพา หรือผู้ที่เชี่ยวชาญเส้นทางในพื้นที่
ทั้งนี้ เดิมทีวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ก่อนจะมีโควิดระบาด จะมีการข้ามไปมาเพื่อกรีดยางฝั่งมาเลเซีย แต่ปัจจุบันไม่สามารถไปได้ ต้องประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจสร้างความตระหนักรู้ให้กับชุมชน ทั้งผู้นำศาสนา ผู้ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และให้ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม ป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อโควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน กลับเข้ามาในประเทศ
-005