กิจการร้านอาหารที่มีอยู่ในจังหวัดนราธิวาส มีไม่มากนักที่เปิดเป็นสวนอาหารและดำเนินกิจการยาวนานกว่า 34 ปี ” สวนอาหารริมน้ำ “สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2530 ถึงวันนี้ ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ก็ตาม แต่ทุกคนต้องสู้ เพื่อความอยู่รอด และพร้อมจะก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วย
“สวนอาหารริมน้ำ”ตอนนี้ได้เปิดบริการขาย ส้มตำ ไก่ย่าง อาหารกล่อง ในเต้นท์ที่หน้าสวนอาหารริมน้ำ หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์ 13 จังหวัด ซึ่งจังหวัดนราธิวาส เป็น1ในนั้น และห้ามไม่ให้เปิดนั่งรับประทานในร้าน ทางร้านจึงต้อง #ปรับเปลี่ยนวิธีการขาย# โดยการขาย สั่ง ส่งทางเดลิเวอร์รี่ สำหรับคนที่ไม่สะดวกมาเอง และขายหน้าสวนอาหารริมน้ำเพื่อให้คนที่สัญจรไปมา คนที่อยู่ใกล้ ได้มาซื้อของอร่อยๆ นำไปทานที่บ้านได้ด้วย
สวนอาหารริมน้ำ มีโปรโมชั่นล้อคดาวน์ให้ลูกค้าในราคา เบาๆเบา แต่รสชาดจี้ดจ้าดแซ่ปอันดับ1 คือ ส้มตำปูปลาร้า 50 บาท ตำไทย 50 บาท ตำแตง 50บาท ตำไข่เค็ม 60 บาท ตำมะม่วง 60 บาท ตำหอยดอง 60บาท ตำข้าวโพด 60บาท ตำผลไม้ 70 บาท ตำกุ้งสด 100 บาท ตำทะเล 120บาท ตำปูม้า 150บาท ส่วนไก่ย่างสูตรเด็ด ที่ย่างด้วยเตาถ่าน เนื้อไก่จะนุ่มหอมถึงเครื่องสามเกลอและด้วยสูตรปรุงลับของทางร้าน บวกกับหมักต้องใช้เวลาหมักถึง 3-4 ชั่วโมง เวลาย่างเนื้อไก่จะได้ หอมฉ่ำไม่แห้ง ตามด้วยจิ้มด้วยน้ำจิ้มแจ่ว สูตรดั่งเดิมของสวนอาหารริมน้ำ ราคาสู้โควิด เราต้องอยู่ด้วยกัน อกไก่ย่าง ราคา 30 บาท น่องไก่ ราคา40 บาท ปีกไก่ ราคา15 บาท และข้าวเหนียว ราคา 10 บาท ส่วนรายการอาหารกล่อง ขอแนะนำ ข้าวเป็ดอบยอดผัก 60บาทมีที่เดียวในนราธิวาส ข้าวอกไก่สามรส ข้าวปลาสามรส ข้าวต้มยำทะเล ข้าวผัดผงกะหรี่และข้าวผัดไก่ ทะเล และราดหน้า ทุกอย่างราคา 50 บาท แต่…ถ้าใครอยากได้เมนูพิเศษก็สามารถโทรสั่งก่อนล่วงหน้า โทร 073-511559 073-513025 092-9491695 สวนอาหารริมน้ำ นราธิวาส พิกัดสวนอาหารริมน้ำ ถนนตากใบ ออกนอกเมือง 2.5 กิโลเมตร ทางไปพระราชตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ หรือตรงข้ามกับปั้มน้ำมัน ป.ต.ท ใหม่ ราคานี้ เฉพาะช่วงล็อคดาวน์โควิดรีบๆสั่งและมาอุดหนุนกัน รับรองการันตรีอร่อยแท้แน่นอน ขออนุญาต ส่งเมื่อสั่งครบ 100 บาทน่ะคับ…ส่งฟรี
คุณ ชายกุนทีกาญจน์ เจ้าของสวนอาหารริมน้ำ ได้ให้สัมภาษณ์เราว่า ตั้งแต่ เริ่มแรก ร้านเราเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ มีลูกน้องประมาณ 40 คน ปกติที่ร้านจะเป็นร้านอาหารนั่งทานได้ ขายอาหารไทย มุสลิม จีน อีสาน มีหมด เรามีห้องประชุม รับจัดสัมมนาด้วย ทีนี้ตั้งแตเกิดโควิดรอบแรก เราสั่งให้ปิด ให้ขายแต่เดลิเวอรี่อย่างเดียว ซึ่งรายได้ที่หายไป เรียกว่า ขาดทุนเลยทีเดียว แต่ว่าลูกน้องที่อยู่กับเรา 40 ชีวิต ถ้าเราหยุดไปเลย เราไม่มีรายได้ พอเราไม่มีรายได้ ลูกน้องก็ลำบาก เค้ามีทั้งส่งลูกเรียน มีค่าใช้จ่ายในครัวเรือน บางคนก็ยังมีหนี้อยู่…. เพราะฉะนั้น เราต้องยืนด้วยตัวเอง แค่คิดว่าจะทำยังไง ปรับเปลี่ยนวิธีการขายดีกว่า ไม่ได้คิดจะเอากำไร แค่คิดว่าจะให้ลูกน้องมีเงินใช้ โดยส่วนตัวเจ้าของร้านเฮง ไม่ได้มีกำไรเลย ไม่มีเลย ขาดทุนด้วยซ้ำ# เพียงแต่ว่าการทำงานของเรา อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม# เปลี่ยนระบบใหม่หมด จากที่เราเป็นร้านอาหารกลายมาเป็น ร้าน เดลิเวอรี่ แล้วเอาลูกน้องที่ทำในส่วนจัดเลี้ยงหรือด่านบริการที่เป็นผู้ชาย ก็จะกลายเป็นเซตเดลิเวอรี่คอยส่งของ ส่วนของบริการที่เป็นผู้หญิง เขาจะไปช่วยในครัว ในการแพคใส่กล่องและจัดเตรียมของที่จะทำ…ในอนาคต จึงอยากฝากทุกหน่วยงาน ถ้าทุกอย่างคลี่คลาย สามารถเปิดร้านตามปกติ อยากให้ทางภาครัฐ ช่วยใช้บริการร้านอาหารที่เป็นของเอกชน ให้เยอะๆ เพื่อชดเชย บรรเทาในส่วนที่เจ็บช้ำที่เคยเกิดขึ้นหลังจากเปิด อย่างน้อยเราจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น เศรษฐกิจก็ดีขึ้น เพราะยังไงเราได้รับเงินมา เราก็ต้องกลับไปจ่ายภาษีให้ภาครัฐอยู่แล้ว เงินมันก็จะหมุนอยู่ในระบบอยู่แล้ว จึงอยากฝากไว้ และยังบอกอีกว่า ช่วงสถานการณ์ # ต้มยำกุ้งก็ไม่หนักเท่ากับวิกฤตโควิด # และฝากบอกทุกร้านที่ประสบอย่างผม ก็ต้องสู้ๆไปครับ