จากกรณีที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติยกเลิกเคอร์ฟิว 70 จังหวัด และคงเหลือเคอร์ฟิวในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 64 เป็นต้นไปนั้น
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปม.ตร.) ได้สรุปผลการปฏิบัติตั้งด่านเคอร์ฟิวตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม ถึง 31 ตุลาคม 64 ดังนี้ มีการเรียกตรวจยานพาหนะ 981,499 คัน เรียกตรวจบุคคล 1,265,630 คน แสดงเอกสารรับรอง 478,729 คน ไม่มีเอกสารรับรองแนะนำตักเตือนลง App Covid Control 640,480 คน
ผลการดำเนินคดีภาพรวมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม ถึง 31 ตุลาคม 64 ดำเนินคดีในด่าน ออกนอกเคหสถาน 1,722 คน ดื่มสุรา 112 คน เสพยาเสพติด 302 คน และอื่นๆ 172 คน ดำเนินคดีนอกด่าน ออกนอกเคหสถาน 2,762 คน ดื่มสุรา 357 คน รวมตัวมั่วสุม 723 คน เสพยาเสพติด 1,063 คน เล่นการพนัน 492 คน และอื่นๆ 356 คน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ให้นโยบายเน้นย้ำปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานหลังมีการยกเลิกจุดตรวจเคอร์ฟิวใน 70 จังหวัด ซึ่งการตั้งจุดตรวจจุดสกัดให้พิจารณาในเรื่องการระงับยับยั้งป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติด และความมั่นคง เป็นหลัก โดยต้องปฎิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติ (SOP) และจะต้องลงในระบบปฏิบัติการ การตั้งจุดตรวจจุดสกัด (TPCC) เพื่อให้สามารถตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติในภาพรวมได้
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่