@ เริ่มต้นที่”คลัสเตอร์”ใหญ่ของ ”โควิด 19” ที่มาจาก”มัรกัส” หรือ” ศูนย์ดาวะห์” อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อกลุ่มนักเรียนศาสนาไม่ยอมให้ตรวจหาเชื้อผู้บริหารปล่อยนักเรียนกลับบ้าน กระจายกันเหมือน”ผึ้งแตกรัง” สุดท้าย “โควิด 19” จาก”มัรกัส” กระจายไปทั่ว ตั้งแต่ จ.พังงา กระบี่,สตูล และอื่นๆในภาคใต้รวม 13 จังหวัด โดยเฉพาะ จ.สตูล ที่ เอกรัฐ หลีเส็น ผวจ. สตูล และ คนสตูล ภูมิใจกันมากเพราะตั้งแต่การระบาดรอบที่ 1 จนถึง รอบที่ 3 จ.สตูล เป็นจังหวัดที่ ป้องกันได้ดีที่สุด แต่..สุดท้ายก็”เอาไม่อยู่” เพราะนักเรียนศาสนาจาก “มัรกัส” ยะลา นำเชื้อเข้ามาให้และมีทีท่าจะไม่ปลื้ม”สื่อ” ที่เสนอข่าวนี้….วันนี้ จ.ยะลา,ปัตตานี และ นราธิวาส กลายเป็นพื้นที่”ระบาดใหญ่” อีกครั้ง สาเหตุหนึ่งเพราะมีการ”ไม่เชื่อคำสั่ง” ของเจ้าหน้าที่ และความเชื่อ”ส่วนบุคคล” ที่”คิดว่า” และ”เชื่อว่า” สิ่งที่เจ้าหน้าที่บอกกล่าวเป็นเรื่อง “ไม่จริง” จึง ไม่เชื่อ ไม่กลัว และ ไม่ทำตาม จนสุดท้ายควบคุมการระบาดไม่อยู่…จะไปกล่าวโทษ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ และ สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ก็ไม่ได้ เพราะ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกอย่าง แก้ไม่ง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของ”ความเชื่อ” ที่ผิดๆซึ่งไม่เฉพาะแต่เรื่องนี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆในการที่จะแก้…ดังนั้นเรื่อง” การสื่อสาร” เพื่อสร้างความเข้าใจ ในเรื่องของ”โควิด 19” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงยังเป็นงานหนักของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เป็นเลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งที่ผ่านมา ก็ทำทุกวิถีทาง ในการสร้างการ”รับรู้” ในเรื่องของ”โควิด 19” และ สร้างความ”เข้าใจ” เพื่อให้มีการฉีด”วัคซีน” อย่างทั่วถึง แต่ก็ยอมรับว่า”เหนื่อย” ขนาดเอานายแพทย์ที่เป็น”มุสลิม” เอาผู้นำศาสนา”บางคน” มาออก”สื่อ” มาเป็น”ฟรีเซ็นเตอร์”แล้วก็ยัง”ดื้อด้าน”
@ กันเช่นเดียวกับที่ จ. ปัตตานี ที่มี ราชิต พุ่มสุด เป็นผู้ว่า”ปีแรก” และ”ปีสุดท้าย” แทนที่จะได้”โชว์ฝีมือ” ในเรื่องงานด้านการพัฒนา กลับต้อง”จ่อมจม”กับปัญหาของ”โควิด 19” ที่ขณะนี้ ลุกลามจาก “โรงงานอุตสาหกรรม แพปลา จนกลายเป็น” คลัสเตอร์” ใหญ่ที่สุด ในรอบการระบาดที่ผ่านมา…เช่นเดียว จ.นราธิวาส ที่ ปิดตรงนั้น โผล่ตรงนี้ แม้ว่าจะ “ซีล” แนวชายแดน ปิดช่องทางธรรมชาติได้ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มขึ้น เจษฎา จิตรัตน์ “พ่อเมือง” นราธิวาส ก็ เจอปัญหาเดียวกับ “พ่อเมือง,ปัตตานี และ ยะลา ก็หวังว่า ประชาชน ใน ยะลา ,ปัตตานี และ นราธิวาส คงจะเข้าใจ และเห็นใจ “พ่อเมือง” ทั้ง 3 หัวเมือง ถึงความ”ไม่ง่าย” กับการทำงานในพื้นที่แห่งนี้…และ ภาคประชาสังคม อย่า “ปลุกเร้า” ให้มีการย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยอ้างเหตุ ควบคุมการระบาด ไม่ได้อย่างที่ จ.สงขลา และ จ.ตรัง ที่ นักการเมือง และ กลุ่มภาคประชาสังคม ออกมาเคลื่อนไหว ให้กรมการปกครองย้าย จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา พ่อเมือง สงขลา และ ขจรศักดิ์ เจริญโสภา พ่อเมืองตรังในข้อหาควบคุม แก้ไขปัญหาการระบาดไม่ได้ เพราะการเสนอย้ายหรือ”เททิ้ง” พ่อเมือง ทั้ง 2 จังหวัด ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง ทางออกที่ถูกต้อง คือ ทั้งฝ่ายการเมืองในฐานะผู้แทนของประชาชน และ ข้าราชการประจำในฐานะผู้มีหน้าที่กำกับดูแล และ ขับเคลื่อนปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องหันหน้ามา”พูดคุย” เพื่อหาทางออกด้วยกัน น่าจะดีกว่าการแสดง”พลัง” ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง ยกเว้นไม่มีทางอื่นเท่านั้น…หรือที่ผ่านมาทั้ง จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา พ่อเมือง สงขลา และ ขจรศักดิ์ โสภาเจริญ พ่อเมือง ตรัง ทำแต่งาน โดยเห็นแต่ข้าราชการเป็นหลัก จนลืมไปว่า ยังมี”นักการเมือง” ทั้งระดับชาติ และ ท้องถิ่น ที่เป็นกำลังสำคัญ จนกลายเป็นเรื่อง”เปราะบางทางอารมณ์” เกิดขึ้น… และที่น่าเป็นห่วง ที่ทุกฝ่ายต้องหันหน้า”หารือ”แทนการ”หาเรื่อง” เพื่อ “รบกัน” คือ เมื่อพื้นที่ 3 จังหวัด”เอาไม่อยู่” เพราะสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว การเดินทาง เข้า-ออก ของคนใน 3 จังหวัดที่เข้ามายัง จ.สงขลา จะแก้อย่างไร “จุดอ่อน” และ”ช่องว่าง” อยู่ตรงไหน ต้องช่วยกัน”อุด” ก่อนที่ สงขลา จะมีการระบาดที่หนักกว่าที่เป็นอยู่ และที่สำคัญ เชื้อ โควิด 19 ที่พบ จาก นักเรียนใน”มัรกัส” เป็นเชื้อ โควิด 19”แอฟริกา” นี่คือ “อันตราย”….
@ เรื่อง”โควิด 19” ช้าหรือเร็วต้องมี”จุดจบ” ต้องมีการเปิดประเทศ เปิดจังหวัด แต่เรื่อง”ไฟใต้” มองอย่างไรก็ไม่จบ ล่าสุด พ.อ.ธายุทธ สวนกูล ผบ.ฉก. 42 จ.ปัตตานี ก็นำกำลังเข้า ปิดล้อม ปะทะกับ “แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น ที่ ต.ตะโละสะมิแล อ.ยะหริ่ง จ. ปัตตานี และสามารถ”วิสามัญ” เสี้ยนหนาม แผ่นดินได้ 2 ศพ. แต่..อย่างเพิ่งดีใจ ถ้าแต่ละศพ ที่ เสียชีวิต ญาติ พี่น้อง ทำพิธีศพ โดยมีการ”แห่แหน” และ ไม่มีการ”อาบน้ำละหมาด” เพราะถือว่าเป็น นักรบผู้พลีชีพ เพราะ นี่คือที่มาของ “ตายหนึ่งเกิดสิบ”ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้”ไฟใต้” ไม่มีวัน”ดับ” อย่างที่ต้องการ…และหลังจากนี้ ผบ. ฉก.ทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ,พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์ ผบ.ฉก.ยะลา , พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส และ พล.ต. ศานติ สกุลตนาค ผบ.ฉก.สงขลา รวมทั้ง”ผบก.ภ.จว.” ทั้ง 4 จังหวัด ต้อง”ตั้งรับ” และเปิด”แนวรุก” เพื่อ ป้องกันการตอบโต้ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น ซึ่ง เกิดขึ้นแน่นอน เพราะ”บทเรียน” ที่ผ่านมา 17 ปี บอกเราอย่างนั้น… และเหตุการณ์นี้ ก็เป็นการ”ยืนยัน” ที่ชัดเจนว่า กองกำลังติดอาวุธของ บีอาร์เอ็น ที่ลงมาพักที่ อาวาดารีสอร์ต จนถูก “วิสามัญ” ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ยัง เคลื่อนไหว ในพื้นที่ เพื่อเตรียมก่อเหตุ … ในส่วนพื้นที่ตัวเมือง ยะลา สถานการณ์ดีขึ้นมา เพราะมีการประสานงานกันดี ระหว่าง “ทหาร ตำรวจ และ ปกครอง โดยเฉพาะงานด้านการสร้างมวลชนของ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ที่ได้มวลชน คนรุ่นใหม่ เข้ามาเป็น”ฐาน” ของงานมวลชน และ”ฐาน” ของผู้นำศาสนา ทำได้ดีเยี่ยม…
@ น้ำมันเถื่อน ทั้ง ดีเซล และ เบนซิน จากฝั่งประเทศมาเลเซีย ยังสามารถ”ติดล้อ” ผ่านพรมแดนด้าน อ.สะเดา ทั้งชายแดนด้าน ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ ก่อนที่จะมีการ ส่งขาย ให้กับ กิจการที่ต้องการใช้ น้ำมันเถื่อน และ บรรจุขวดขายปลีกตามชุมชนเมือง “ใบกระท่อม” ที่ทะลักเข้ามาได้ ไม่น่าสงสัยเพราะใส่”กระสอบ” แล้วโยนข้ามรั้วกั้นพรมแดนเข้ามาฝั่งไทยง่ายๆ แต่ น้ำมันเถื่อน ต้อง บรรทุกด้วย”แท็งค์เกอร์” โดยรถยนต์ผ่านด่านพรมแดน เห็นที่ต้องถาม อาทิตย์ วิสุทธิสมาจารย์ นายด่านใหญ่ อ.สะเดา จ.สงขลา ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยว่า น้ำมันเถื่อนที่ใส่”แท็งเกอร์” มัน”บิน” ข้ามรั้วได้อย่างไร….
@ ผ่านไปถนนไปสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา จะพบ”คัตเอ้าท์” ที่สะดุดตาม ของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีรูป จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคและรองนายกรัฐมนตรี และ นิพนธ์ บุญญามณี มท. 2 รอง หัวหน้าพรรค ขึ้นหรา พอๆกับ “คัตเอาท์” ของ พรรคกล้า ที่มีภาพของ กรณ์ จติกวนิช หัวหน้าพรรค และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ที่เขียนว่า”คนสงขลาต้องกล้าเปลี่ยน เหมือนกับการ ส่งสัญญาณ ให้รู้ว่า อีกไม่นาน จะมีการ”ยุบสภา” และ มีการ”เลือกตั้ง” อีกแล้ว… ในยุคที่”ความจนไม่มีขีด จำกัด” แค่เห็นป้ายนี้ หัวคะแนน และ ชาวบ้าน ก็ ตื่นเต้นแล้ว เพราะการ”เลือกตั้ง”ในความรู้สึกของชาวบ้านในยุคที่ “ 3 ป. ครองเมือง หมายถึงเงินที่”สะพัด” จากการ “หาเสียง” ส่วนเรื่องประชาธิปไตย เต็มใบ ครึ่งใบ เป็นเรื่องรองลงมา….
@ เดินหน้าทำหน้าที่ในการ บริหาร เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา อย่างเต็มตัว ล่าสุด พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี “นายกป้ายแดง” เทศบาลนครหาดใหญ่ เชิญคณะที่ปรึกษา 29 คน จากทุกสาขาอาชีพประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นของการ”ขับเคลื่อน” เพื่อ พัฒนานครหาดใหญ่ โดยมี สมพร ใช้บางยาง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะที่ปรึกษา…เรื่องด่วนๆ ที่ต้อง”ปรึกษา”กันคือ จะ”กอบกู้” เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว อย่างไร เพราะ รัฐบาล ประกาศที่จะ เปิดประเทศ โดยเฉพาะ จังหวัดที่เป็น เมืองท่องเที่ยว อย่าง ภูเก็ต ,พังงา และ กระบี่ ภายใน 120 วัน ฉะนั้น” หาดใหญ่” จะต้องไม่”ตกขบวน” เมื่อ นักท่องเที่ยว มาเลเซีย ยังมาไม่ได้ ก็ต้อง มองไปที่นักท่องเที่ยว นักเดินทาง กลุ่มอื่นๆ ไม่ใช่”งอมืองอเท้า” แหนหน้าตั้งตารอคอยแต่ มาเลย์-สิงคโปร์ อย่างเดียว…วันนี้ องค์กรเอกชน ใน หาดใหญ่-สงขลา และ สะเดา ต้อง เป็น “เวทีทัศน์” ของ คนรุ่นใหม่ ให้มีพื้นที่เพื่อร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะถ้ายัง”ผูกขาด”การ พัฒนาเมืองหาดใหญ่ โดยคนรุ่นเก่า การที่จะเห็น สิ่งใหม่ๆ ยากยิ่งกว่า” เห็นดวงดาวในคืนข้างแรม”เช่นเดียวกับ เทศบาลนครสงขลา ที่เลือกตั้งที่ผ่านมา มีการ”เปลี่ยน” โดยชาวบ้านเลือก ศรัญ บิลพัฒน์ “ รองหมู “ มาเป็น นายกเทศมนตรีแทนคนเก่า เพราะต้องการที่จะเห็น การพัฒนาที่ต้อง”ตอบโจทย์” ของ ปัจจุบันและอนาคต เพราะฉะนั้น ทั้งตัว”นายก” และ ทีมงาน คณะผู้บริหาร อย่า”ราน”น้ำใจทำให้ชาวบ้านผิดหวัง….
@ ข่าว”ซุบซิบ” แต่มีคนได้ยินชัด จาก”วงใน”ของ เลขาธิการป้ายแดงแห่งพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการ”จัดทัพ” ผู้ว่าราชการจังหวัดในชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.สงขลา ซึ่งเป็น”ฐาน” ที่มั่นเก่าของ ปชป. ที่หมายมั่นจะทวงพื้นที่คืน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ข่าวว่า พลังประชารัฐ มีการ วางตัว ผวจ.คนใหม่ คือ เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส มาเป็น ผวจ.สงขลา และดันให้ ไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส ก้าวขึ้นเป็น ผวจ.นราธิวาส ส่วน จ.ยะลา ,ปัตตานี ยังอยู่ระหว่างการ”เคาะ” โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี ที่ พลังประชารัฐ ยัง”เจาะ”ไม่เข้า….แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ
——————————————————————–
“ไชยยงค์ มณีพิลึก” ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคใต้ตอนล่าง
….หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ. พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) รับมอบรถตรวจเชื้อชีวนิรภัย จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี พระราชทานแก่พสกนิกรชาวยะลา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมโรคเขต 12
….ความห่วงใย นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นตัวแทนรัฐบาล นำความห่วงใจ นำสิ่งของที่จำเป็น มอบให้กับ ชาวบ้านชุมชนเก้าเส้ง เทศบาลนครสงขลา หลังถูกประกาศล็อคดาวน์พื้นที่ เพราะเป็น คลัสเตอร์ โควิด 19
….กำลังใจ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)พร้อมคณะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์พร้อมมอบสิ่งของต่างๆอาทิ ปลากระป๋อง,ฟักทอง,ไข่ไก่ และหน้ากากอนามัย โดยมี นพ.มัชลัน ตาแระ ผอ.รพ.ธารโต และ นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง จ.ยะลา เป็นผู้รับมอบ
….เยี่ยมจุดตรวจ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต. ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เยี่ยมเจ้าหน้าที่จุดตรวจบ้านคลองทรายพร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ โดยมี พ.ต.อ.สกนธ์ อนนท์รัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา และ ธนาวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา ให้การต้อนรับ
….ติดตามนโยบาย มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์และคณะ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามนโยบายโครงการต่างๆในพื้นที่ โดยมี อามีระ ซารีคาน รองนายกเทศบาลตำบลรือเสาะ ร่วมให้การต้อนรับ
….กฟผ.เคียงข้างคนไทย ปรีชา บุญพงษ์มณี วิศวะระดับ 11 สมคิด ธิวงศ์ หัวหน้ากองควบคุมระบบ และผู้ปฏิบัติงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)มอบตู้ความดันบวก เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ให้กับ รพ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยมี นพ.สุวิทย์ ชูช่วย ผอ.รพ.รัตภูมิ เป็นผู้รับมอบ
….รับฟังความคิดเห็น พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ และ สมพร ใช้บางยาง ประธานที่ปรึกษาฯ ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษา เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบาย 9 ด้านในการแก้ปัญหาและพัฒนาเมืองหาดใหญ่ ณ ห้องประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา
….เตรียมพร้อมรับมือ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 15 /ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจกองพันเสนารักษ์ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายลพบุรีราเมศวร์ ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อจัดทำเป็น ร.พ.สนามรองรับผู้ป่วยที่ยังเพิ่มมากขึ้น
….แสดงความยินดี เฉลิมพล เรืองเริงกุลฤทธิ์ รองนายก อบจ.ยะลา/นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวิราวุธ 77 พร้อมเพื่อนร่วมรุ่นแสดงความยินดีกับ ศรัญ บิลพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา ณ ห้องประชุมเทศบาล
….ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ร่วมกับ โยธิน ทองเนื้อแข็ง ส.อบจ.เขต อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา และชาวบ้านหมู่ 6 ต.เกาะใหญ่ ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กุ้งก้ามกราม 500,000 ตัวเพื่อพัฒนากลุ่มธนาคารดุ้งก้ามกรามให้มีความยั่งยืน
….มอบน้ำดื่ม จักรธร สุริแสง นายกเทศมนตรีเทศบาลเขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา รับมอบน้ำดื่มจำนวน 1,200 ขวด จาก เฉลิมชนม์ วรรณทอง ผอ.หอดูดาว เพื่อใช้ช่วยเหลือประชาชน ณ.ห้องประชุม ศปค.เทศบาลเขารูปช้าง
….ยกระดับการท่องเที่ยว กอง จันทร์สว่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลสิงหนคร จ.สงขลา พร้อมคณะผู้บริหารประชุมร่วมกับ คณาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา เพื่อทำแผนยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชน และให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมปัญญาชาวบ้าน
….อาหารพระราชทาน ไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธาน มอบอาหารพระราชทานให้แก่ผู้แทนจากอำเภอห้วยยอด จำนวน 3,000 ชุด จากนั้น ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ จำนวน 3 ราย ในพื้นที่หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 7 ตำบล ลำภูรา อำเภอห้วยยอด พร้อมมอบอาหารพระราชทาน น้ำดื่ม และชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 ยังความปลาบปลื้มแก่ประชาชนที่ได้รับอาหารพระราชทานและต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
….โหนด นา เล พ.อ.บรรณกร วงษ์สุวรรณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 43 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ส่งมอบโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์สู่ “ โคก หนอง นา โมเดล “ ให้แก่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพัทลุง โดยมี กิตตินันท์ เซ็งกะชรี นายอำเภอศรีบรรพต และนางลภารมย์ หนูสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดพัทลุงรับมอบ เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับชาวจังหวัดพัทลุงและเกษ๖รกรในพื้นที่ตำบลเขาย่า อ.ศรีบรรพต ได้เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบต่อไป
….รับมอบ ขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รับมอบฟ้าทะลายโจร จำนวน 1,000 กล่อง จาก หจก.โรงโม่ตรังภูทอง โดย นรินทร์ เก่งธนทรัพย์ ผจก.โรงโม่ตรังภูทอง ณ หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง