คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติสั่งปิดสถานบันเทิงใน 3 เขต ได้แก่ เขตวัฒนา เขตคลองเตย และเขตบางแค หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมีผลตั้งแต่ 6-19 เม.ย. 64 ส่วนสถานบันเทิงในเขตอื่น ๆ หากพบผู้ติดเชื้ออาจพิจารณาปิดเป็นกรณีไป
ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 22 ระบุว่าเป็นมาตรการเพื่อการเร่งตรวจหาเชื้อและสอบสวนโรค โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
ก่อนหน้านี้ วันนี้ (5 เม.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กลับมาสูงกว่าหลักร้อยอีกครั้ง สาเหตุมาจากกรณีการติดเชื้อภายในเรือนจำ จ.นราธิวาส รวมทั้งกรณีเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร
พ.ญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 5 เม.ย. นอกจากกรุงเทพฯ และสมุทรสาคร ที่เคยเป็นพื้นที่การระบาดที่เฝ้าระวัง วันนี้พบผู้ป่วยในจังหวัดอื่น ๆ ถึง 132 ราย ซึ่งจำนวนหนึ่งมาจากกรณีการติดเชื้อในเรือนจำ จ.นราธิวาส และกรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิง ย่านทองหล่อ และเอกสมัย กรุงเทพฯ
ด้านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุ นี่เป็นผลของการไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐและไร้จิตสำนึกความรับผิดชอบร่วมกัน
พ.ญ. อภิสมัย กล่าวว่า กลุ่มที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ คือ การติดเชื้อในจังหวัดต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับการระบาดในสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในวันนี้ก็พบผู้ป่วยรายใหม่ใน จ.ชุมพร
โดยในวันนี้กรุงเทพฯ พบผู้ป่วยรายใหม่ 46 ราย ซึ่งคิดเป็น 25.27% ของผู้ป่วยรายใหม่ทั่วประเทศ หนึ่งในนั้นเป็นเด็กเล็ก อายุ 5 เดือน
สถานบันเทิงกรุงเทพ และปริมณฑลเฝ้าระวังสูงสุด
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. พบผู้ป่วยยืนยันจากคลัสเตอร์เดียวกันนี้ 71 ราย ซึ่งมีการกระจายไปทั้งในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และเมื่อติดตามก็พบการเชื่อมโยงไปยัง ชลบุรี เลย ชุมพร สมุทรสงคราม และเชียงใหม่
โดยจากการสืบสวนไทม์ไลน์การติดเชื้อ พบว่า เริ่มต้นจากนักศึกษา ซึ่งไปเที่ยวในผับชมดาว พร่างพราว ณ ก้ำกึ่ง รังสิต จ.ปทุมธานี ก่อนจะเชื่อมโยงไปเที่ยวยังสถานบริการอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง
พ.ญ.อภิสมัย ชี้ว่า จากการประชุมพบว่าจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการระบาดคลัสเตอร์นี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบายอากาศ ซึ่งสถานบริการลักษณะนี้มักมีเพดานต่ำ อากาศปิด รวมถึงความใกล้ชิด จากการตะโกน ไอจาม ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ใช้ภาชนะร่วมกัน อีกทั้งพฤติกรรมของนักเที่ยวมักไปหลายแห่งในคืนเดียว และข้ามไปในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อมีการติดเชื้อมักไม่มีอาการ จึงมีการสัมผัสต่อไปยังครอบครัว ที่ทำงาน พื้นที่สาธารณะ
ในขณะนี้ศบค. จึงมีข้อสรุป เพื่อนำเสนอมาตรการเฝ้าระวังออกเป็น 3 ระดับ คือ
- ระดับที่ 1 คือ หากพบผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง หากพบผู้ติดเชื้อยืนยัน สถานบริการนั้นจำเป็นต้องปิดทันที เพื่อควบคุมโรคสูงสุด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ระดับที่ 2 หากพบสถานประกอบการใดพบผู้ติดเชื้อในลักษณะเป็นโซน คือเชื่อมโยงกันหลายสถานที่ ก็จะมีการปิดเป็นโซน เช่นกรณีของสถานบันเทิงย่านทองหล่อ
- ระดับที่ 3 หากไม่สามารถควบคุมได้ ผู้ว่าฯสามารถพิจารณาเพื่อปิดสถานบันเทิงได้ทั้งจังหวัด
“สถานบันเทิงที่อยู่ระยะใกล้ โซนของท่านยังปลอดภัย ยังไม่ติด ท่านต้องรีบยกการ์ดสูงสุดเลยค่ะ เพราะว่าถ้าเพื่อนบ้านผับข้าง ๆ ปิด ท่านต้องทบทวนแล้วว่ามาตรการอะไรที่เขาย่อหย่อน”
เรือนจำนราธิวาส มีผู้มีความเสี่ยงกว่า 791 รายที่ต้องเฝ้าระวัง
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. มีการตรวจเชื้อไปแล้ว 214 ตัวอย่าง พบผู้ติดเชื้อไปแล้ว 112 ราย ในจำนวนนี้เป็นนักโทษ 88 ราย เจ้าหน้าที่ 28 ราย พยาบาล 1 ราย ซึ่งต้องมีการสืบสวนโรคต่อเนื่อง เพราะจนถึงตอนนี้พบผู้เสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำ รวมกันกว่า 791 ราย
ในวันนี้ผู้ติดเชื้อในประเทศส่วนใหญ่ ก็มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน จากกลุ่มก้อนเรือนจำใน จ.นราธิวาส ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 93 ราย
จากการสืบสวนโรค พญ.อภิสมัย ชี้แจงว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกน่าจะเป็นพยาบาล ซึ่งมีอาการตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. และมีประวัติเข้าไปดูแลนักโทษตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. จากนั้นก็มีการกู้ชีพนักโทษในวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งในแดนนั้นมีนักโทษที่แสดงอาการป่วยทางเดินหายใจตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.
ก่อนที่ในเวลาต่อมา นักโทษจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปประชุมวิชาการที่ จ.สราษฎร์ธานี ทำให้ในวันนี้ก็พบผู้ติดเชื้อใน จ.สุราษฎร์ธานี อีก 6 ราย ซึ่งการค้นหายังไม่ยุติ
สถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่
สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทยในรอบ 24 ชั่วโมง จากการรายงานของ ศบค. มีข้อมูลสำคัญดังนี้
- พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 194 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 182 โดย 95 รายพบจากการค้นหาเชิงรุก และอยู่ในสถานที่กักของรัฐ 12 ราย
- ยอดผู้ป่วยสะสม 29,321 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 95 ราย
นายกฯ ระบุ ยังมีคนไร้จิตสำนึกร่วมกัน
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างการเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า ที่ผ่านมา สามารถทำได้ดีและถือว่าดีมากในอันดับต้นของโลก ทั้งในส่วนราชการ รัฐบาล และทุกคนที่ช่วยกันอย่างเต็มที่แต่ทุกอย่างต้องยอมรับว่าก็ต้องมีปัญหาบ้าง เนื่องจากเรามีจำนวนประชากรจำนวนมากมีทั้งเรื่องความแตกต่างทางความคิด การยับยั้งชั่งใจ หรือความสนุกสนานอย่างเลยเถิด เพราะนี่คือมนุษย์ หรือคน จนทำให้เกิดปัญหาอีกตามมาจำนวนมาก
“รัฐบาลคาดหวังว่าในช่วงสงกรานต์ทุกคนจะมีความสุข แต่มันก็เกิดขึ้นมาอีกจนได้ เพราะนี่คือคน ต่อให้มีมาตรการอะไรออกมาก็ตามแต่เมื่อคนไม่ปฏิบัติตาม ยังไม่มีจิตสำนึกในความรับผิดชอบร่วมกัน” เขากล่าว