พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ไม้แก่น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี, อ.เบตง อ.กาบัง จ.ยะลา และ อ.แว้ง อ.สุคิริน อ.สุไหงโก-ลก อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.64 สิ้นสุดวันที่ 19 มี.ค.65 (ครั้งที่ 66) เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาบังคับใช้แทน
ขณะที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ได้รายงานผลการดำเนินงานตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในช่วงวันที่ 20 ก.ย.-25 พ.ย.64 ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยดีที่ผ่านมา รวมถึงรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานตามแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีแนวโน้มและโอกาสปรับลดพื้นที่ต่อเนื่อง
โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กองทัพภาคที่ 4 (ทภ.4) และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้เข้มงวดงานด้านการข่าว และเฝ้าระวังพื้นที่ปรับลด ซึ่งอาจใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนและพักพิงของกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งให้จัดทำคู่มือแนวทางการบังคับใช้กฎหมายด้านความมั่นคง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย