วันนี้ (15 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดยะลา ประกาศงดให้ประชาชนการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดยะลา เว้นแต่กรณีจำเป็น และให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องแสกนคิวอาร์โค้ด ที่ด่านตรวจรอยต่อทั้งจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดปัตตานี ไปถึงวันที่ 7 ก.ค. 2564 ส่วนมาตรการงดไม่ให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในร้าน ให้สั่งกลับบ้านเท่านั้น และร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 22.00 น. ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ทำให้เช้าวันนี้ภายในตลาดเทศบาลนครยะลา ทั้งร้านอาหารและร้านน้ำชา ต่างเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด เพราะส่วนใหญ่ร้านอาหารจะปิด เนื่องจากการสั่งกลับบ้านลูกค้าจะไม่ค่อยนิยม ทำให้ไม่คุ้มทุนในการที่จะเปิดร้าน จนพ่อค้าแม่ค้าบ่นกันเป็นเสียงระงมว่า โควิด-19 ระลอกนี้ พื้นที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับผลกระทบหนัก เพราะผู้ติดเชื้อกระจายอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางคน บางกลุ่มยังไม่ตระหนักและยังไม่ป้องกัน และมีการรวมตัวเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่บริเวณจุดตรวจท่าสาป บนถนนสาย 418 ยะลา-หาดใหญ่ จังหวัดยะลา เช้าวันนี้ มีประชาชนไปยื่นเรื่องขอผ่านทางกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ประจำด่านจำนวนมาก ซึ่งจะสามารถให้เข้า-ออก ได้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้บริเวณด่านมีรถติด เนื่องจากต้องตรวจสอบประวัติการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อ หลังจากพบกลุ่มเสี่ยง ทั้งจากการรวมกลุ่มของผู้ปฏิบัติศาสนกิจ และการรวมตัวกันจากศูนย์ดะฮ์วะห์ อีกหลายคลัสเตอร์ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 547 คน
ขณะที่ในจังหวัดปัตตานี มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสม รวม 641 คน มาจาก 3 คลัสเตอร์ใหญ่ๆ อย่างในโรงงานอาหารกระป๋อง จนล่าสุดมีการสั่งปิดและห้ามพนักงานโรงงานออกนอกพื้นที่ และคลัสเตอร์โรงเรียนปอเนาะอีกหลายแห่ง
ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส แม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ (13 มิ.ย.64) แค่ 11 คน แต่ยังถือเป็นจังหวัดที่ต้องควบคุม เนื่องจากยังพบการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายของคนไทยข้ามแม่น้ำโก-ลก ทั้งอำเภอแว้ง อำเภอตากใบ และอำเภอสุไหงโก-ลก เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงเกิดกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงตรวจเข้มพื้นที่ตะเข็บชายแดนอย่างเข้มข้นแม้ว่ามาเลเซียจะครบการล็อกดาวน์ประเทศ14 วัน เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.64) และมีการต่อขยายล็อกดาวน์ไปอีก 15 วัน เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อสูง ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ริมชายแดนไทย-มาเลเซีย ยังน่าเป็นห่วง และยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง