ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพิ่มอีก 6 คน เป็น 126 คน แยกเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ 25 คน ผู้ต้องขัง 101 คน ขณะนี้ได้แยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไว้ที่แดน 2 ซึ่งปรับเป็นโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ สามารถรองรับได้ถึง 200 คน หากเต็มก็จะใช้พื้นที่แดน 6 รองรับผู้ติดเชื้อ ส่วนเจ้าหน้าที่ 20 คน ไม่มีอาการป่วยหนัก ได้กักตัวไว้ที่เรือนจำหลังเก่า และอีก 5 คน ซึ่งมีอาการป่วยรุนแรง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์นั้น
วานนี้รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน จำนวน 1 คัน ไปทำการเก็บตัวอย่างของเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขังในการแยกแยะบุคคลที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อมาควบคุมออกจากกัน ควบคู่กับการจัดเตรียมสถานที่โรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ ที่ใช้แดน 2 และแดน 6 ซึ่งเป็นสถานพยาบาล เพื่อรองรับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ พร้อมกันนี้ได้เก็บตัวอย่างกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาส ที่ถูกส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากร ส่วนผลการตรวจหาเชื้อคาดว่าในวันนี้จะทราบตัวเลขที่ชัดเจนว่าจะติดเชื้อเพิ่มอีกหรือไม่
นอกจากนี้จะมีการนำมาตรการ Bubble and Seal ที่มีประสบการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาคร มาใช้ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสด้วย โดยมาตรการนี้คาดว่าจะควบคุมโรคได้ภายใน 28 วัน ซึ่งจะอยู่ในแผนควบคุม
ขณะที่ นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ให้จัดเตรียมหาสถานที่ในการกักตัวและคัดกรองบุคคล เนื่องจากในช่วงวันที่ 12-13 เมษายน ที่จะถึงนี้ เป็นเทศกาลถือศีลอดหรือเดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม ที่เชื่อว่าจะมีคนไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งบุคคลต่างด้าว จะลักลอบเดินทางข้ามแดนมาในช่วงเทศกาลดังกล่าวตามพื้นที่อำเภอแนวชายแดน ส่วนกรณีของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อในเรือนจำนราธิวาส เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ตอนนี้ควบคุมได้แล้ว หลังจากนี้เรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศจะงดให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังด้วยวิธีปกติเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากภายนอกและภายใน
นายสมศักดิ์ยังชี้แจงอีกว่า การติดเชื้อดังกล่าวไม่ได้เกิดจากงานประกวดผลงานด้านการต่อต้านยาเสพติดของกรมราชทัณฑ์ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้ส่งผู้ต้องขังและผู้คุม เข้าร่วมกิจกรรม 8 คน แต่เกิดจากการติดเชื้อภายในจังหวัดนราธิวาสเอง และคาดว่าเป็นการติดเชื้อจากผู้ต้องขังที่มาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะถูกส่งตัวเข้ามาภายในเรือนจำจนเกิดการแพร่ระบาดไปยังผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากดูจากช่วงเวลาการแพร่ระบาดจะพบว่าเกิดขึ้นก่อนงานที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอย่างละเอียด เพื่อหาว่าเป็นการรับเชื้อมาจากจุดใด
