โฆษกอัยการปราบทุจริตภาค 9 ยกอุทาหรณ์ศาลจำคุก 5 ปี ส.ต.ท.ขาดราชการโดนออกไม่ยอมคืนเสื้อเกราะ
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกและรองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี ตำรวจยศ สิบตำรวจโท กระทำเบียดบังเสื้อเกราะกันกระสุน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ตามที่อัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 ยื่นฟ้อง โดยพฤติการณ์สรุปว่าจำเลยมียศเป็น สิบตำรวจโท ประจำกองกำกับการปฎิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้เบิกเสื้อเกราะกันกระสุนแบบอ่อนหนึ่งตัว ไปเมื่อวันที่ 28 ม.ค.58 จนกระทั่งวันที่ 22 ก.ค.-16 ส.ค.61 จำเลยขาดราชการไม่สามารถติดต่อได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสมีคำสั่งลงโทษไล่จำเลยออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. 2561 ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันควร การที่จำเลยเบิกเสื้อเกราะอ่อน ซึ่งเป็นสิ่งของหลวงเพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติราชการจำเลยมีหน้าที่ดูแลจัดการหรือรักษาสิ่งของหลวงรวมทั้งต้องส่งคืนสิ่งของหลวงแก่ทางราชการเมื่อออกจากราชการ การไม่ส่งคืนเสื้อเกราะอ่อนที่เบิกไปใช้จึงเป็นการเบียดบังสิ่งของหลวง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดครึ่งจำคุก 2 ปี 6 เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเสื้อเกราะ 15,800 บาท แก่ทางราชการ
คดีนี้จะเห็นว่า ทรัพย์สินของทางราชการเบิกไปใช้แล้วมีหน้าที่ต้องดูแลรักษา และส่งคืน การเบียดบังยักยอกไปเป็นความผิดโทษถึงติดคุกไม่รอลงอาญา
