น้ำท่วมที่นราธิวาส ล่าสุด แม่น้ำ 3 สายยังล้นตลิ่ง ที่บ้านศาลาวดี อ.ยี่งอ ท่วมสูง ชาวบ้านยังต้องเดินลุยน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 17 เร่งระบายน้ำท่วมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดความเดือดร้อน
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและพื้นที่ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 63 ส่งผลทำให้มีสภาวะฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส เป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ราบเชิงเขาน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และแม่น้ำ 3 สายแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำสุไหงโก-ลกและแม่น้ำบางนรา เอ่อล้นตลิ่งเพิ่มขึ้น ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโกลก ที่สะพานสุไหงโกลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.05 ม. แม่น้ำสายบุรี ที่บ้านท่าเรือ อ.รือเสาะ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.04 ม. และแม่น้ำบางนรา ที่บ้านตันหยงมัส อ.ระแงะ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.01 ม.
ส่วนพื้นที่บ้านศาลาวดี ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่มีสภาวะน้ำท่วมขังสูงเป็นประจำทุกปี ชาวบ้านต้องลุยน้ำเข้าออกในหมู่บ้าน จยย.ไม่สามารถไปได้ และยังมีน้ำเข้าบ้านชาวบ้านต้องย้ายข้าวของไว้ที่สูง
แต่ถึงอย่างไรก็ตามสภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนในครั้งนี้ ยังมีทีท่าและแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากมีสภาวะฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงระยะนี้
นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางโครงการชลประทานในสังกัดสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้แจ้งเตือนภัยน้ำล้นตลิ่งไปแล้วรวม 13 ฉบับ อีกทั้งให้ความช่วยเหลือ โดยสั่งการให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปเสริมจากที่มีอยู่เดิม เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประตูระบายน้ำทุกแห่งให้เปิดบานพ้นน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่อ่าวไทย ลดผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรให้เร็วที่สุด ล่าสุดได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวม 14 พื้นที่ ดังนี้ จังหวัดนราธิวาส 18 เครื่อง จังหวัดปัตตานี 4 เครื่อง สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 11 สถานี สถานีสูบน้ำด้วยระบบไฮดรอลิก 7 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังและเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ภาพรวมคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน สถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วทั้ง 13 อำเภอ ใน 37 ชุมชน 68 ตำบล 420 หมู่บ้าน 22,308 ครัวเรือน 80,836 คน สถานศึกษา 34 แห่ง วัดและที่พักสงฆ์ 7 แห่ง มัสยิด 6 แห่ง มีผู้อพยพ 85 ครัวเรือน 295 คน ปัจจุบันปริมาณน้ำในลุ่มน้ำ 3 สายหลัก ลุ่มน้ำสายบุรี ลุ่มน้ำโก-ลก ลุ่มน้ำบางนรา อยู่ในเกณฑ์ล้นตลิ่ง ทางจังหวัดนราธิวาส อำเภอทุกอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน และมีการเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง 24 ชั้วโมง.